B2B คืออะไร?
B2B ย่อมาจาก Business-to-Business คือ ธุรกิจที่ทำการค้าระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเป็นการค้าที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อไปเพื่อบริโภคเองแต่ซื้อไปเพื่อประกอบธุรกิจของตัวเอง เช่นธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายสินค้าด้านวัตถุดิบ โรงงานผ้าที่ขายผ้าเพื่อไปทำเสื้อผ้าเป็นต้น ลักษณะของธุรกิจแบบ B2B ค่อนข้างแตกต่างกับ ธุรกิจแบบ B2C เนื่องจากกลุ่มลูกค้า และวัตถุประสงค์การใช้งานในตัวสินค้าค่อนข้างจะแตกต่างกัน พฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้า B2B จะเป็นการซื้อขายที่ปริมาณมากและยอดเงินสูงและมีขั้นตอนของการตัดสินใจเพราะเป็นการซื้อขายเพื่อดำเนินการในธุรกิจ
สรุปลักษณะของธุรกิจ B2B
- เป็นการซื้อขายที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ในนามบริษัท
- ลักษณะของการซื้อสินค้าจะเป็นการซื้อปริมาณมาก ไม่เน้นปริมาณลูกค้า
- การซื้อขายระหว่างคู่ธุรกิจทั้งสองฝ่าย จะมีผู้ตัดสินใจหลายคน เช่น แผนกจัดซื้อ แผนกบัญชี เจ้าของบริษัท
- เน้นคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือขององค์กรเป็นหลักเพราะเป็นการซื้อขายที่มีมูลค่าสูง
ข้อดีของธุรกิจแบบ B2B
- กำลังการซื้อในปริมาณมากไม่จำเป็นต้องหาลูกค้าหลายๆรายเหมือนกับการขายให้ผู้บริโภคโดยตรง แต่ก็สามารถขายได้จำนวนเยอะๆเช่นเดียวกัน
- มีลูกค้าประจำต่อเนื่องยาวนาน เนื่องจากลูกค้าผ่านการพิจารณาไตร่ตรองมาอย่างดี เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียมาแล้วมักจะไม่เปลี่ยนไปซื้อสินค้าเจ้าอื่นง่ายๆ
- ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะเป็นการซื้อขายที่มีมูลค่ามากเน้นคุณภาพของสินค้าและการซื้อขายในระยะยาว ไม่เหมือนขายสินค้าให้กับผู้บริโภคที่เน้นขายให้กับลูกค้าเยอะๆหลายๆคน
- ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด
ข้อเสียของธุรกิจแบบ B2B
- มีอำนาจการต่อรองกับลูกค้าน้อย เนื่องจากเป็นการขายให้กับบริษัท จำนวนลูกค้าที่อยู่ในรูปแบบบริษัทต้องมีน้อยกว่าการขายสินค้าเพื่อผู้บริโภคทั่วไปอยู่แล้ว
- มีโอกาสที่ลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัทเหมือนกันไปผลิตสินค้าเองเพื่อลดต้นทุนการผลิตของตัวเอง
- ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องผ่านกระบวนตัดสินใจหลายขั้นตอน