รีวิว OPPO R7 Plus และ R7 Lite สไตล์ชัด กับที่สุดแห่งความแรง สมาร์ทโฟนที่หรูที่สุด ดีที่สุด ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้

ตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทยคึกคักอีกครั้งกับการเปิดตัวของ OPPO R7 ซีรีย์ สมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่หรูหราด้วยตัวเครื่องโลหะ Unibody แมกนีเซียมอัลลอย ทรวดทรงที่เพรียวบางเร้าใจ กระจกขอบข้างโค้ง 2.5D ที่ให้ความรู้สึกสัมผัสในการจับถือที่กระชับถนัดมือ ความแรงระดับ Octa-core แปดแกนประมวลผล ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์หรูที่น่าจับตามองในช่วงปลายนี้ โดย OPPO R7 Plus ขนาดหน้าจอ 6 นิ้ววางราคาขายเอาไว้ที่16,990 บาทครับ และ OPPO R7 Lite ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว วางราคาขายไว้ที่ 10,990 บาท

OPPO R7 Plus เด่นด้วยแผ่นหลังและขอบข้างตัวเครื่องที่โชว์ผิวสีทองพ่นทราย สวยหรูดูดีมากๆ อีกสิ่งที่เด่นมากบนฝาหลังตัวเครื่องคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับการปลดล็อกเครื่องที่วางตำแหน่งอยู่ใต้เลนส์กล้อง และมีช่องปล่อยลำแสงอินฟราเรดเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างขวาของชิ้นเลนส์ ช่วยทำให้กล้องหาโฟกัสได้เร็วขึ้น

ขอบบนและขอบล่างของหน้าจอบางเฉียบด้วยการย้าย 3 ปุ่มมาตรฐาน คือ Menu, Home และ Back ไปไว้บนหน้าจอ เป็นแนวทางการออกแบบที่ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น และด้วยมิติตัวเครื่องที่เพรียวบาง บวกกับขอบข้างหน้าจอที่มี่ความโค้งรับกับผ่ามือแบบ 2.5D ทำให้ OPPO R7 Plus เป็นสมาร์ทโฟนจอ 6 นิ้วที่จับถือได้ถนัดกระชับมือมากๆ

หน้าจอ 6 นิ้วความละเอียดระดับ Full HD ให้การแสดงผลที่ใหญ่เต็มตาสวยงาม และเป็นหน้าจอแบบ AMOLED แสดงสีสันอิ่มเข้มสดใส ใช้เปิดดูภาพถ่ายได้สวยงามดีมากๆ เลยครับ รองรับการเปิดคลิป YouTube ได้ที่ระดับความละเอียด Full HD 1080p ดูคลิปได้ใหญ่เต็มตาสะใจดีมากๆ ใครที่เล่นสมาร์ทโฟนหน้าจอเล็กๆ  แล้วอ่านข้อความที่เพื่อนโพสต์เฟสมาไม่ค่อยถนัด OPPO R7 Plus เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ ถ้าลองได้เล่นสักครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะไม่อยากกลับไปเล่นสมาร์ทโฟนจอเล็กๆ อีกเลย

รองรับระบบ 4G สองซิมการ์ด โดยทั้งช่องซิมหมายเลข 1 และ 2 เป็นขนาดนาโนซิมทั้งคู่ครับ และถ้าไม่ใส่ซิมในช่องหมายเลข 2 ก็สามารถติดตั้ง microSD การ์ดเพื่อขยายความจุได้สูงสุดถึง 128GB ครับ โดยที่หน่วยความจำในตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ถึง 32GB ลงแอพลง ลงเกม เก็บภาพ และเก็บเพลงได้จุใจครับ

มาพูดถึงเรื่องดีไซน์ของ OPPO R7 Lite กันบ้างดีกว่าครับ มีตัวเครื่องให้เลือกซื้อ 2 สีคือสีทอง และสีเงิน โครงสร้างตัวเครื่องเป็นโลหะถึง 92% โดยเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบเป็นสีเงิน แผ่นหลังและขอบข้างตัวเครื่องโชว์ผิวโลหะสีเงินพ่นทรายดูสวยหรูเนียนตาหรูหราดีครับ

ผลิกกลับมาดูทางด้านหน้าตัวเครื่อง ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สวย เรียบ หรู ด้วยผิวตัวเครื่องสีขาวสะอาดตา และกะทัดรัดน่าใช้ด้วยขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว ทรวดทรงที่เพรียวเร้าใจ และขอบข้างหน้าจอที่โค้งมนแบบ 2.5D ให้ความรู้สึกสัมผัสในการจับถือที่กระชับ และนุ่มนวลกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปที่ขอบจอไม่โค้งแบบรู้สึกได้ เหมาะสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์หรูในขนาดเหมาะมือ สเปกแรง พกพาสะดวกไม่ว่าจะเป็นการจับยัดใส่กระเป๋ากางเกง หรือพกใส่กระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง

OPPO R7 Lite เลือกใช้หน้าจอ 5.0 นิ้วแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ HD แสดงตัวอักษรบนหน้าจอได้คมชัด เปิดดูภาพถ่ายในเครื่อง หรือภาพในอินเทอร์เน็ตได้สีสันสดใสสวยงามดีมากๆ ครับ ใครชอบสมาร์ทโฟนจอสวยถูกใจแน่นอนครับ

ราคาไม่แรงและรองรับระบบ 4G สองซิมการ์ดอัจฉริยะ สามารถสลับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างซิม 1 หรือ 2 ได้อย่างอิสระ ช่องซิมหมายเลข 1 เป็นขนาดไมโคร และช่องซิมหมายเลข 2 เป็นขนาดนาโน และถ้าไม่ใส่ซิม 2 ก็สามารถขยายความจุได้อีกสูงสุด 128GB ด้วย microSD การ์ดครับ (หน่วยความจำในตัวเครื่องขนาด 16GB)

Specification

รุ่น	OPPO R7 Plus	OPPO R7 Lite
ขนาดหน้าจอ	6.0”	5.0”
ความละเอียดหน้าจอ	Full HD 1,920×1,080 จุด	HD 1,280×720 จุด
ระบบปฏิบัติการ	ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานของ Android 5.1 Lollipop)	ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานของ Android 5.1 Lollipop)
CPU	Qualcomm Snapdragon 615 – Octa Core 1.5GHz 64-bit	Qualcomm Snapdragon 615 – Octa Core 1.3GHz 64-bit
RAM / หน่วยความจำภายใน	3GB / 32GB (ขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD ได้อีก 128MB)	2GB / 32GB (ขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD ได้อีก 128MB)
กล้อง	* กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล (ถ่ายความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD , โหมดการถ่าย รับแสงสองครั้ง, เลนส์แบบเร็ว และ Reverse GIF, ระบบ Laser Auto Focus) * กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (ปรับหน้าเนียนฟรุ๊งฟริ้ง 3 ระดับ ปรับโทนสีภาพเซลฟี่ได้ 11 รูปแบบ)	* กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล (ถ่ายความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD , โหมดการถ่าย รับแสงสองครั้ง, เลนส์แบบเร็ว และ Reverse GIF, ระบบ Phase Detection AF) * กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (ปรับโทนสีภาพเซลฟี่ได้ 11 รูปแบบ)
ระบบ 2 ซิม	รองรับ  (ซิม 1 ขนาดนาโน, ซิม 2 ขนาดนาโน)	รองรับ  (ซิม 1 ขนาดไมโคร, ซิม 2 ขนาดนาโน)
เครือข่าย 3G	850 / 900 / 1900 / 2100MHz (รองรับ 3G ทุกเครือข่าย)	850 / 900 / 1900 / 2100MHz (รองรับ 3G ทุกเครือข่าย)
เครือข่าย 4G	รองรับ	รองรับ
Battery	4,100mAh (มีระบบชาร์จเร็ว 4 เท่า VOOC Flash Charge)	2,320mAh
สีให้เลือกซื้อ	ตัวเครื่องทอง	ตัวเครื่องเงิน, ทอง
ราคา	16,990 บาท	10,990 บาท

 

จุดเด่นของ OPPO R7 Plus

* สวยหรูเพรียวบางด้วยวัสดุโลหะแมกนีเซียมอัลลอย

* จอใหญ่ 6.0 นิ้ว AMOLED แสดงผลสวยงาม

* รองรับ 4G สองซิมการ์ด

* ถ่ายภาพและถ่ายเซลฟี่สวยด้วยกล้องหลัง 13 ล้าน กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

* โหมดการถ่ายภาพที่แปลกใหม่สร้างสรรค์ อย่างเช่น การรับแสงสองครั้ง, เลนส์แบบเร็ว และ Reverse GIF

* กล้องโฟกัสภาพได้รวดเร็วในทุกสภาพแสงด้วยระบบ Laser Auto Focus

* ชาร์จไว 4 เท่าด้วยระบบ VOOC Flash Charge

* ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

* ประสิทธิภาพแรงด้วย CPU 8 แกนสมอง RAM 3GB

* หน่วยความจำภายในใหญ่ถึง 32GB ขยายเพิ่มได้ 128GB ด้วย microSD การ์ด

* ใช้งานง่ายด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานแอนดรอยด์ Lollipop 5.1)

จุดเด่นของ OPPO R7 Lite

* สวยหรูเพรียวบางด้วยตัวเครื่อง Unibody โครงสร้างโลหะกว่า 92%

* จอ 5.0 นิ้ว AMOLED สีสันสวยงาม

* รองรับ 4G สองซิมการ์ด

* ถ่ายภาพและถ่ายเซลฟี่สวยด้วยกล้องหลัง 13 ล้าน กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

* โหมดการถ่ายภาพที่แปลกใหม่สร้างสรรค์ อย่างเช่น การรับแสงสองครั้ง, เลนส์แบบเร็ว และ Reverse GIF

* กล้องหาโฟกัสได้รวดเร็วเพียง 0.1 วินาที ด้วยระบบ Phase Detection AF

* ประสิทธิภาพแรงด้วย CPU 8 แกนสมอง RAM 2GB

* ใช้งานง่ายด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานแอนดรอยด์ Lollipop 5.1)

ถ่ายภาพสวยล้ำ ฟังก์ชั่นเพียบ

OPPO R7 ซีรีย์ ทั้งสองรุ่นอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นทางด้านการถ่ายภาพ เริ่มด้วยรุ่นพี่ใหญ่ OPPO R7 Plus กันก่อน มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจมากๆ คือระบบ Laser Auto Focus ที่ใช้ลำแสงอินฟราเรดช่วยในการหาโฟกัสภาพ โดยมีชุดตัวปล่อยและรับแสงอินฟาเรดอยู่ทางด้านหลังตัวเครื่องใกล้ชิ้นเลนส์

จากการลองใช้งานจริงพบว่าระบบนี้มีประโยชน์มาก อย่างเช่นการถ่ายในห้องที่ค่อนข้างมืดมีแสงน้อย ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนอื่นๆ จะใช้เวลานานกว่าจะหาโฟกัสภาพได้ (หรือหาโฟกัสไม่ได้เลยในบางที) แต่กับ R7 Plus พอแตะที่หน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัสปุ๊ป กล้องก็สามารถหาโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราแตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อที่จะบันทึกภาพได้ในทันที ไม่พลาดที่จะบันทึกภาพในช่วงจังหวะที่น่าประทับใจ

อีกหนึ่งระบบที่น่าสนใจมากของ OPPO R7 Plus คือ Anti-Shake Optimization ที่ช่วยแก้ปัญหาภาพไหวเบลอจากการถือกล้องไม่นิ่งพอ ซึ่งอาการภาพไหวเบลอมักจะเกิดขึ้นเมื่อถ่ายภาพในห้องมืดๆ แสงค่อนข้างน้อย ซึ่งการถ่ายภาพด้วย OPPO R7 Plus ในสภาพแสงน้อย ให้ภาพออกมาสวยงามคมชัดน่าประทับใจครับ

OPPO R7 Plus ให้ภาพถ่ายที่คมชัดดีมากกับการถ่ายในห้องที่มีแสงน้อยด้วยระบบ Anti-Shake Optimization

อีกหนึ่งจุดขายของ OPPO R7 Plus ที่ชูความเป็น Camera Smartphone เต็มรูปแบบ คือการเลือกใช้เซ็นเซอร์ภาพคุณภาพสูงรุ่นใหม่แบบ RGBW ของ Sony IMX278 ให้ภาพที่สว่างขึ้น 32% เม็ดสีรบกวนในภาพลดลงถึง 78% และใช้เลนส์คุณภาพสูงของ Schneider เรามาดูภาพถ่ายสวยๆ จากกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลของ OPPO R7 Plus ครับ

มาดูกล้องของ OPPO R7 Lite กันบ้างครับ ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กราคาเบา แต่ก็มาพร้อมฟีเจอร์ของกล้องที่สดใหม่ ด้วยระบบ Phase Detection AF ทำให้ใช้เวลาในการหาโฟกัสภาพเพียง 0.1 วินาที เร็วกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป และหาโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในห้องมืด หรือสภาพแสงน้อย ทำให้เริ่มต้นการถ่ายได้อย่างรวดเร็ว ไม่พลาดที่จะเก็บภาพในทุกช่วงเวลาที่น่าประทับใจครับ เรามาดูภาพถ่ายสวยๆ จากกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลของ OPPO R7 Lite กันครับ

และด้วยระบบประมวลผลภาพ Pure Image 2.0+ ทำให้ทั้ง OPPO R7 Plus และ R7 Lite มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย แปลกใหม่ และสร้างสรรค์ เริ่มกันที่โหมดการถ่ายแบบ “รับแสงสองครั้ง” (Double Exposure) ที่เป็นการถ่าย 2 ภาพแล้วนำมาซ้อนรวมเป็นภาพเดียว ได้ภาพที่ดูสวยแปลกตา รับรองว่าโหมดการถ่ายแบบ รับแสงสองครั้ง จะสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับการถ่ายภาพของคุณอย่างแน่นอนครับ

ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Plus

 ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Plus

 ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Plus

 ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Lite

ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Lite

ภาพถ่ายด้วยโหมด “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO R7 Lite

OPPO เด่นในเรื่องการถ่ายเซลฟี่มาแต่ไหนแต่ไร และใน R7 ซีรีย์ ก็มีฟีเจอร์การถ่ายภาพหน้าเนียนฟรุ๊งฟริ้งแบบ Beautify 3.0 ที่ใช้งานง่าย และที่พิเศษคือสามารถใช้โหมด “ตัวกรองสี” (Color filter) เพื่อปรับโทนสีของภาพเซลฟี่ให้สวยงามได้ตามต้องการถึง 11 รูปแบบ เรามาดูตัวอย่างภาพเซลฟี่สวยๆ จากกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลของ OPPO R7 ซีรีย์ กันครับ

ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Plus

 ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Plus

 ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Plus

 ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Lite

 ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Lite 

 ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Lite

ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Lite

ภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ OPPO R7 Lite

โหมดการถ่ายแบบ “ตัวกรองสี” (Color filter) นอกจากจะใช้ถ่ายเซลฟี่ได้แล้ว ก็ยังใช้สำหรับการถ่ายภาพแนวทั่วๆ ไปให้ออกมามีโทนสีสวยๆ เหมือนภาพในอินสตาแกรมได้ด้วย (เลือกโทนสีได้ 11 รูปแบบ) ใครชอบภาพโทนสีสวยๆ ก็ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสี ทีเดียวจบเลย ไม่ต้องเอาภาพมาแต่งอีกรอบให้เสียเวลา เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดนี้กันครับ

และด้วยโหมดการถ่ายแบบ Ultra HD ที่มีอยู่ในทั้ง OPPO R7 Plus และ R7 Lite ทำให้ได้ภาพถ่ายความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซล เก็บรายละเอียดในภาพได้ครบถ้วน นำภาพพิมพ์ไปลงกระดาษไซส์ใหญ่ๆ ได้สบายๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในภาพได้ครบถ้วน

OPPO R7 Plus และ R7 Lite มีฟังก์ชั่น Post filter ที่สามารถเอาภาพถ่ายที่มีอยู่มาปรับแต่งโทนสี (เลือกโทนสีได้ 14 รูปแบบ) หรือจะใส่กรอบภาพสวยๆ ปรับภาพให้คมชัด ใส่โมเสก หมุนภาพ หรือจะทำฉากหลังเบลอ และตัดส่วนภาพ (Crop) ได้แบบง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องลงแอพเสริมสำหรับการแต่งภาพให้ยุ่งยากเลยครับ

สร้างสรรค์คลิปวิดีโอที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วย OPPO R7 Plus และ R7 Lite ด้วยโหมดการถ่าย “เลนส์แบบเร็ว” (Fast lens หรือที่นิยมเรียกว่า Time-lapse) ในรูปแบบของคลิปวิดีโอที่สามารถเร่งเหตุการณ์ให้เร็วขึ้น ทำให้ได้คลิปวิดีโอที่นำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่น่าตื่นตา (เลือกได้ว่าจะเร่งความเร็ว 2, 4, 6, 8 หรือ 10 เท่า)

ตัวอย่างคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโหมด “เลนส์แบบเร็ว” ของ OPPO R7 Plus และ R7 Lite

อีกหนึ่งโหมดการถ่ายที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ คือ Reverse GIF (เข้าไปที่โหมดการถ่ายแบบ GIF แล้วเลือกที่ “ย้อนกลับ”) ซึ่งเป็นการถ่ายคลิปสตอปโมชั่นถอยหลังกลับในรูปแบบของไฟล์ GIF ทำให้ได้คลิปวิดีโอที่มีเรื่องราวแปลกใหม่น่าสนใจครับ

ตัวอย่างคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโหมด Reverse GIF ของ OPPO R7 Plus และ R7 Lite

แบตอึด ชาร์จเร็ว ต้อง OPPO R7 Plus

OPPO R7 Plus คือสมาร์ทโฟนในอุดมคติของคนที่มองหาสมาร์ทโฟนแบตอึด แบบว่าชาร์จครั้งเดียวอยู่กันได้ยาวๆ ครบวัน ลืมความยุ่งยากในการพก Power Bank ไปได้เลยครับ

ด้วยขนาดความจุแบตเตอรี่ที่ใหญ่ถึง 4,100mAh จากการการลองใช้งานจริงก็ต้องบอกว่าแบตอึดมากๆ ครับ เห็นความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปอย่างชัดเจนครับ การใช้งานในชีวิตประจำวัน เล่นเฟส เล่น Line เล่นเกมบ้าง แบตอยู่ได้ครบวันแบบสบายๆ และจากสเปกระบุเอาไว้ว่ารองรับการดูคลิปวิดีโอ HD ได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง, รอรับสายได้ 30 วัน, เปิดฟังเพลงได้ 3 วันครึ่ง หรือสนทนาโทรศัพท์ได้ถึง 1 วันครึ่งเลยครับ

แค่แบตอึดยังไม่พอ OPPO R7 Plus ยังชาร์จเร็วกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 4 เท่า ด้วยระบบ VOOC Flash Charge ชาร์จแค่ 5 นาที สนทนาโทรศัพท์ได้ 2 ชั่วโมง, ชาร์จ 30 นาที แบตเต็มถึงประมาณ 50% และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 100 นาที (ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที) สรุปว่าชาร์จแบตเต็มเร็วกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่แบตขนาด 4,100mAh เท่ากัน ถึง 1 ชั่วโมงเลยครับ

เรามาดูกันครับว่า OPPO R7 Plus ชาร์จเร็วจริงหรือไม่

เริ่มชาร์จที่เวลา 0 นาฬิกา 0 นาที มีแบตเตอรี่เหลืออยู่ 1%

เวลาผ่านไป 30 นาที แบตเตอรี่ถูกชาร์จขึ้นมา 47%

แบตเตอรี่เต็ม 100% ที่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 41 นาทีครับ ถือว่าชาร์จเร็วกว่าสมาร์ทโฟนแบต 4,100mAh รุ่นอื่นๆ ที่ต้องใช้เวลาในการชาร์จแบตเกิน 2 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป ต้องบอกว่า OPPO R7 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่นอกจากจะแบตอึดแล้ว ก็ยังชาร์จเร็วมากๆ ครับ

ปลดล็อกเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ใครที่ชอบล็อกสมาร์ทโฟนด้วยรหัสผ่านจะต้องชอบ OPPO R7 Plus อย่างแน่นอน เพราะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานง่าย และมีความแม่นยำสูง แค่เพียงวางนิ้วลงไปบนเซ็นเซอร์ทางด้านหลังตัวเครื่องเบาๆ เครื่องก็จะถูกปลดล็อกให้พร้อมสำหรับการใช้งานได้ทันที ลืมความยุ่งยากในการใส่รหัสผ่านไปได้เลยครับ จากการลองใช้งานจริงก็ต้องบอกว่าเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานง่ายและน่าประทับใจมากๆ

สามารถเพิ่มลายนิ้วมือเข้าไปในเครื่องได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ เลือกได้เลยว่าจะใช้นิ้วไหนในการปลดล็อกได้ตามใจ และในกรณีที่นิ้วมือเปียก ไม่สามารถปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้ตามปกติ ก็สามารถป้อนรหัสผ่านเพื่อปลดล็อกเครื่องได้ด้วย จัดว่าเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือที่ง่ายและใช้งานได้จริง

OPPO R7 ซีรีย์ แรงลื่นในเรือนร่างที่หรูหรา

มาพูดถึงประสิทธิภาพของ OPPO R7 ซีรีย์ทั้ง 2 รุ่นกันบ้างดีกว่าครับ เริ่มกันที่รุ่น OPPP R7 Plus เลือกใช้ขุมพลังในการประมวลผลเป็น CPU Snapdragon 615 แปดแกนสมอง 64 บิต ความเร็ว 1.5GHz หน่วยความจำแรมจัดมาให้ขนาดใหญ่ถึง 3GB จากการลองใช้งานจริงก็รับประกันได้ว่าแรงลื่นทุกแอพทุกเกมครับ การโหลดเปิดเกมทำได้รวดเร็วดี เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมได้สนุกสะใจด้วยจอใหญ่ 6 นิ้ว และด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานแอนดรอยด์ 5.1 Lollipop) ทำให้รองรับการใช้งานในอนาคตได้ดีครับ

การทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark พบว่า OPPO R7 Plus ทำได้ 37,220 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงมากๆ และได้ 22,776 คะแนนจากการทดสอบด้วยแอพ Quadrant Standard Edition และการทดสอบประสิทธิภาพระบบสัมผัสของหน้าจอ ผลออกมาว่ารองรับการแตะสัมผัสได้สูงสุด 10 จุดพร้อมกัน และไม่มีอาการแตะไขว้ รองรับการเล่นเกมที่ต้องใช้มากกว่าหนึ่งนิ้วแตะลงบนจอพร้อมกันได้แบบสบายๆ ครับ

กับการลองเล่นเกมหนักๆ กราฟิกสวยๆ อย่างเกมขับรถซิ่ง Asphalt 8: Airborne และเกม Brother in Arms 3  ก็เล่นเกมได้สนุกลื่นไหลดีมากๆ ครับ การโหลดเปิดเกมก็รวดเร็วดี และกับเกมเบาๆ น่ารักๆ อย่าง Fruit Ninja ก็เล่นได้ลื่นไหลสบายๆ ครับ รองรับความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมได้ดีมากๆ เลย

มาดูทางฝั่งของ OPPO R7 Lite กันบ้างครับ เครื่องเล็กกะทัดรัดแต่มาพร้อมขุมพลังที่แรงไม่แพ้รุ่นใหญ่ เลือกใช้ CPU Snapdragon 615 แปดแกนสมอง 64 บิต ความเร็ว 1.3GHz หน่วยความจำแรม 2GB จากการใช้งานจริงตอนที่ได้เครื่องมาอยู่ในมือหลายวัน ผมสัมผัสได้ถึงความลื่นไหลของ OPPO R7 Lite ทั้งในภาคของการใช้งานแอพในชีวิตประจำวัน และในภาคของการเล่นเกม เป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นๆ ที่ดีไซน์สวยและประสิทธิภาพดีครับ และแน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง ColorOS 2.1 (บนพื้นฐานแอนดรอยด์ 5.1 Lollipop) ทำให้รองรับการใช้งานได้ยาวๆ ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องกันบ่อยๆ ครับ

และกับการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ Benchmark พบว่า OPPO R7 Lite ทำได้ 31,933 คะแนนจากแอพ AuTuTu Benchmark และได้ 21,845 คะแนนจากการทดสอบด้วยแอพ Quadrant Standard Edition และการทดสอบประสิทธิภาพระบบสัมผัสของหน้าจอ ผลออกมาว่ารองรับการแตะสัมผัสได้สูงสุด 10 จุดพร้อมกัน รองรับการเล่นเกมที่ต้องใช้มากกว่า 1 นิ้วแตะลงบนหน้าจอพร้อมกันได้อย่างสบายๆ ครับ

ได้ลองเล่นเกมด้วย OPPO R7 Lite แล้วต้องบอกเลยว่า เป็นสมาร์ทโฟนราคาระดับหมื่นต้นๆ ที่เล่นเกมได้ลื่นไหลดีมากๆ กับเกม 3D หนักๆ กราฟิกสวยๆ อย่างเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่ 1 Modern Combat 5: Blackout และเกมแนวต่อสู้ MORTAL KOMBAT X ก็รองรับการเล่นได้ลื่นไหลดีมากๆ ไม่มีอาการกระตุกระหว่างเล่น และกับเกมเบาๆ อย่างเจ้าฉลามดุ Hungry Shark Evolution ก็เล่นได้ลื่นๆ ไม่มีปัญหาครับ ใครอยากได้มือถือจอ 5 นิ้วเล่นเกมได้ดี OPPO R7 Lite เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามครับ

บทสรุป OPPO R7 Plus และ R7 Lite

OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนจอ 6 นิ้วที่เด่นด้วยดีไซน์บางเฉียบ ตัวเครื่องผลิตมาจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอย แผ่นหลังตัวเครื่องสีทองลายพ่นทรายดูหรูหรา เด่นกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกันด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือที่ง่ายและใช้งานได้จริง แบตเตอรี่ความจุสูง 4,100mAh และมีระบบชาร์จเร็ว 4 เท่า VOOC Flash Charge ทำให้ชาร์จแบตเต็มเร็วกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่แบตเตอรี่ความจุเท่ากันถึง 1 ชั่วโมง ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลที่ใช้เซ็นเซอร์ภาพแบบใหม่ พร้อมด้วยระบบ Laser Auto Focus ทำให้เริ่มต้นการถ่ายในสภาพแสงน้อยได้อย่างรวดเร็ว สเปกแรง แรม 3GB รองรับการใช้งานแอพและการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ในราคาค่าตัวที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ เพียง 16,990 บาท

OPPO R7 Lite สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในระดับราคาหมื่นต้นๆ หรูหราแข็งแรงด้วยโครงสร้างตัวเครื่องที่เป็นโลหะถึง 92% มีตัวเครื่องสีเงิน และสีทองให้เลือกซื้อ ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และด้วยระบบประมวลผลภาพ Pure Image 2.0+ ทำให้ R7 Lite มีโหมดการถ่ายภาพที่แปลกใหม่สร้างสรรค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Double Exposure , Reverse GIF, โหมดเลนส์แบบเร็ว, โหมดตัวกรองสี และมีระบบหาโฟกัสภาพแบบใหม่ Phase Detection AF ที่ทำให้โฟกัสภาพได้เร็วเพียง 0.1 วินาที ไม่พลาดที่จะบันทึกภาพในทุกช่วงจังหวะที่น่าประทับใจ สเปกแรงรองรับการใช้งานแอพ และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ในราคาเพียง 10,990 บาท

คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO R7 Plus

คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO R7 Lite