ในยุคปัจจุบันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภค และ วิถีชีวิตประจำวันของคนที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะการสั่งซื้ออาหาร การซื้อสินค้า และ บริการต่างๆ ก็มักจะทำผ่านช่องทางออนไลน์จึงทำให้ธุรกิจออนไลน์ผุดขึ้นมาอย่างมากมายส่งผลให้การแข่งขันของการทำตลาดออนไลน์นั้นสูงขึ้นไปด้วย ดังนั้นหากเราต้องการที่จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้นๆ การศึกษาเรียนรู้และรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการทำตลาดหรือโฆษณาออนไลน์จึงเกิดประโยชน์ในการวางแผนและการจัดการงบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพได้ ซึ่ง Conversion ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับการตลาดออนไลน์ บทความนี้ไปทำความรู้จักกับคำว่า conversion คืออะไรกันค่ะ
Conversion คืออะไร
Conversion คือตัวบ่งชี้ที่จะทำให้เราทราบถึงประสิทธิภาพของโฆษณาในแต่ช่องทาง ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดได้มีการตอบสนองอย่างใดอย่างหนึ่งต่อโฆษณาหรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการคลิกเข้ามาดู การกดถูกใจ การสมัครสมาชิก หรือการสั่งซื้อ เป็นต้น กล่าวได้ว่า Conversion เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของโฆษณาแต่ละช่องทาง รวมถึงยังสามารถใช้ประเมินคุณภาพของ Content โฆษณาบน Social Media และช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถโฟกัสงบประมาณไปกับช่องทางสำคัญที่สามารถสร้างกำไรได้มากที่สุดนั่นเองซึ่งการวัดผลของ Action เหล่านี้เรียกว่า Conversion Tracking ซึ่งต้องติด Tracking Code บนเว็บไซต์ เช่น Facebook Pixel เป็นต้น
ตัวอย่างของการกำหนดค่า conversion
การกำหนดค่า conversion นั้นจะไม่ได้มีการระบุตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับ ประเภทของการขายสินค้าและบริการนั้นยกตัวอย่างเช่น
– การลงทะเบียนสมัครสมาชิก
– แจ้งการชำระเงิน
– การดาวน์โหลด E-Book
– การกรอกฟอร์มสำหรับนัดหมาย
– หน้าขอบคุณลูกค้า
– ฯลฯ
Conversion Rate คืออะไร?
Conversion Rate (CVR) คือ อัตราส่วนของจำนวนคนทั้งหมดหรือกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด กับคนที่ซื้อสินค้าจริง หรือคนที่คลิกโฆษณาจริงๆ คิดออกมาว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เช่น ร้านค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ ทำการลงโฆษณาเพื่อโปรโมทหาลูกค้า มีคนเห็นโฆษณา 500 คนแล้วซื้อเสื้อไป 50 คนค่า Conversion จึงคิดเป็น 10% (คำนวณจาก 50 X 100 / 500 )
ประโยชน์ของการกำหนด Conversion
สามารถทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่าควรทำการตลาดไปในทิศทางไหน และสามารถประเมินกลุ่มเป้าหมายได้ด้วย เพื่อนำลูกค้าไปสู่การซื้อ และ กลับมาซื้อซ้ำ เช่น สมมติว่ามีการยิงโฆษณาไปในกลุ่มวัยรุ่น กับวัยทำงานก็สามารถวัดผลได้ ว่ากลุ่มไหนที่สนใจมากกว่า ก็ทำให้เรามุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายนั้นดีกว่าที่จะทำโฆษณาแบบหว่านแบบไร้ทิศทาง