iOS 7 ของใหม่มาแรง ลองกันรึยัง
เปิดตัวไปไม่นานสำหรับ iPhone 5S,iPhone 5C และที่ขาดไม่ได้ก็คือ iOS 7 ระบบปฏิบัติการล่าสุดจาก Apple ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแทบจะทั้งหมดของ iOS แบบเดิมๆที่เคยใช้มา การเผลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นฝีมือของ Jonathan Ive โดยใช้แนวคิด “Flat Design” ซึ่งเน้นที่ความบาง, ตายตัว, เรียบง่ายและดูดีเก๋ไก๋ขึ้นกว่าเดิม โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา Apple ได้ปล่อยให้มีการอัพเดท iOS 7 ถือเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดในขณะนี้ให้กับผู้ใช้ทั้ง iPad,iPhone และ iPod Touch ทั่วโลกได้อัพเดทกันอย่างเมามันส์
โดยมี 2 วิธีในการอัพเดท iOS 7 ได้แก่
1.การอัพเดทผ่านตัวเครื่องโดยตรง ที่เรียกว่า OTA โดยไปที่ Settings >>> General >>> Software Update
2.การอัพเดทผ่าน iTunes
โดยก่อนการอัพเดทไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ตัวเครื่องที่จะทำการอัพเดทควรจะมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 3.1 GB นะคะ
ฟีเจอร์เด่นๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนของ iOS 7
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]1.[/dropcap]
Camera
เมื่อก่อนการถ่ายรูปในแต่ละครั้งจะต้องมีการ save รูปไว้ก่อนแล้วจึงนำรูปไปใส่ในโปรแกรมเพื่อตกแต่งภาพทำให้เกิดความยุ่งยาก Apple จึงจัดให้ โดยเปลี่ยนอินเตอร์เฟซกล้องใน iOS 7 และเพิ่มลูกเล่นแต่งภาพใส่ฟิลเตอร์ให้กับรูปภาพได้ซึ่งให้ผลเหมือน(หรืออาจจะดีกว่า)แอพพลิเคชั่นแต่งภาพต่างๆ เช่น intragrams หรือ Camera 360 เป็นต้น
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]2.[/dropcap]
Photo
แอพพลิเคชั่นที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับอุปกรณ์ IT อย่าง iPhone, iPod touch และ iPad ซึ่งก็คือ แอพพลิเคชั่น Photo ทาง Apple เองก็จัดให้สำหรับคนรักการถ่ายรูปทั้งหลาย โดยการเพิ่มตัวเลือกในการแสดงภาพแบบตามสถานที่ หรือเลือกแสดงตามเวลาที่ถ่ายภาพเพื่อง่ายต่อการค้นหา ยังไม่หมดสำหรับแอพพลิเคชั่น Photo ใน iOS 7 นี้ยังสามารถแชร์ภาพผ่าน AirDrop เพื่อส่งรูปภาพให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone,iPad และ iPod touch ได้อีกด้วย ง่ายๆสบายๆสไตล์ Apple เค้าล่ะ
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]3.[/dropcap]
Multitasking
หลายคนคงเบื่อที่เวลาเปิด แอพพลิเคชั่นอะไรไว้แล้วไม่ได้ปิด แอพพลิเคชั่นนั้นก็จะยังคงทำงานอยู่ ซึ่งเหตุนี้ทำให้เปลืองแบตเตอรี่ แต่วันนี้จะไม่มีปัญหานี้อีกต่อไป โดย Apple ได้จัดระบบ Multitasking แบบใหม่ซึ่งถูกออกแบบมาให้อนุญาตเฉพาะบางแอพพลิเคชั่นเท่านั้นแจ้งเตือนได้ หากแอพฯ ไหนไม่ได้ใช้งานก็จะถูกหยุดการทำงาน ซึ่งทางแอปเปิลได้เปลี่ยนค่าการวัดมาเป็นการวัดแบบ Priority โดยให้ความสำคัญกับแอพพลิเคชั่นที่เรากำลังใช้งานอยู่ ส่วนแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้ก็จะหยุดทำงานให้ทันที ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]4.[/dropcap]
AirDrop
AirDrop ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่เลยสำหรับผู้ที่ใช้ MacBook แต่ทาง Apple เองทำให้เป็นของใหม่ใน iOS 7 ซึ่งทำให้เป็นอีก 1 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ โดย AirDrop ใน iOS 7นี้ นอกจากใช้งานสะดวกสบายแล้ว ยังสามารถแชร์ภาพผ่านทาง WiFi หรือ Bluetooth ให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone,iPad และ iPod touch ได้อย่างง่ายดาย
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]5.[/dropcap]
Control Center
Control Center บน iOS 7 เป็นฟีเจอร์ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณสามารถเปิดปิด การใช้งานพื้นฐานต่างๆ เช่น Airplane Mode, Wifi, Bluetooth ได้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปที่ Setting โดยสามารถเลือกปิดผ่าน icon หน้าจอได้เลยค่ะ ยังไม่หมดสำหรับ Control Center เป็นการรวบรวมเอาแอพพลิเคชั่นที่จำเป็น มาอยู่ใน Control Center ด้วย ซึ่งวิธีการใช้งาน Control Center นั้นก็เพียง ลากนิ้วจากด้านล่าง ขึ้นด้านบน ซึ่งตรงข้ามกันกับการเรียกใช้ Notification Center นั่นเองง่ายๆสบายๆ
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]6.[/dropcap]
Safari
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งทีเว็บบราวเซอร์อันเลื่องชื่อของ Apple อย่าง Safari มีหรือที่จะนิ่งเฉย Apple เองก็จัดหนักจัดเต็มปรับปรุงอินเตอร์เฟซของ Safari ใหม่ทั้งหมด ปรับเปลี่ยน Menu Tab ใหม่ พร้อมทั้งทำให้ Safari มีการแสดงผลแบบ Full screen Browsing ให้เห็นกันแบบเต็มๆไปเลย ยังไม่หมดสำหรับบราวน์เซอร์หลักของ Apple ยังสามารถ Since ข้อมูลได้ทั้งกับ iCoud Keychain ระบบจัดการ Password และบัตรเครดิตที่จะเก็บไว้บน iCoud พร้อมทั้งอุปกรณ์อื่นๆได้ และ Password Generator ที่จะช่วยสร้างรหัสผ่านเมื่อเราสมัครหรือสร้างบัญชีบนเวป ผ่าน Safari
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]7.[/dropcap]
iTunes Radio
มาใหม่สุดๆ สำหรับ iTunes Radio เป็นบริการวิทยุออนไลน์ผ่านระบบเสียง Streaming ที่มีมากกว่า 200 สถานี โดยผู้ใช้สามารถเปิดฟังเพลงได้ทั้งบน iPhone,iPod touch,iPad,Mac Apple TV รวมทั้งบน PC ปล.ฟังบน PC จะมีโฆษณาด้วยนะคะ แต่หากฟังบนผลิตภัณฑ์ของ Apple จะไม่มีโฆษณาค่ะ ฟังคลื่นไหนแล้วเกิดถูกใจก็อินเทรนด์กันสุดๆ ด้วยการกดแชร์ กดไลค์ได้เต็มที่ แต่บ้านเราคงต้องรอไปสักระยะก่อนนะคะ เพราะมีข่าวว่าเพิ่งจะเริ่มเปิดบริการที่อเมริกาค่ะ
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]8.[/dropcap]
Siri
คงจะเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวที่มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย สำหรับ Siri ยังคงเป็นฟีเจอร์เก่า เพียงแต่มีการปรับปรุงใหม่ให้น่าใช้งานกว่าเดิม โดย Siri บน iOS 7 ได้เพิ่มเสียงเลขาผู้ชายเข้ามาด้วย รวมถึงสามารถตอบโต้ในภาษาอื่นเพิ่มขึ้นได้ และเพิ่มการค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia และ Twitter อีกด้วย
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]9.[/dropcap]
Find My iPhone
Find My iPhone เป็นอีก 1 ฟีเจอร์ที่สำคัญของผู้ที่ใช้ระบบ iOS ที่จะใช้ตามหาหรือดูตำแหน่ง iPhone โดยใน iOS 7 นี้ Apple ได้ปรับปรุง Find My iPhone ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ที่เรียกว่า “Activation Lock” ตัวนี้จะสำคัญคือ เมื่อ iPhone ของเราหาย เราจะสามารถใช้คำสั่งล็อคเครื่องจากโปรแกรม Find My iPhone ซึ่งถึงแม้เครื่องจะถูกล้างไปแล้วก็ตาม แต่ตัวเครื่องนั้นจะไม่สามารถ Activate เครื่องได้ และการจะActivate กับเครื่องได้นั้นจะต้องใช้ Apple ID ของเจ้าของเครื่องเท่านั้น
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]10.[/dropcap]
App Store
เรียกว่าปรับเปลี่ยนใหม่ไฉไลกว่าเดิมกับ App Store ที่มากับฟีเจอร์ใหม่เหมาะกับคนไม่อยากอัพเดทแอพพลิเคชั่นบ่อยๆ ทาง Apple จัดให้โดยได้เพิ่มระบบอัพเดทแอพพลิเคชั่นอัตโนมัติ ซึ่งทุกครั้งเราต้องเข้าไปกดอัพเดทเอง ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อ Apple จัดให้ ยังไม่หมดสำหรับ App Store ยังเพำมฟีเจอร์ Apps Near Me ที่จะคอยแนะนำแอพพลิเคชั่นยอดนิยมในประเทศที่เราใช้งานอยู่ หรือแอพพลิเคชั่นที่เป็นประโยชน์กับเรา ณ ตอนนั้น
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]11.[/dropcap]
Notification Center
แม้แต่ Notification เอง Apple เองก็ยังไม่เว้นจัด Notification Center ศูนย์รวมการแจ้งเตือนบน iOS 7 มาให้ซะเลย โดยเพิ่มส่วน Today ที่แสดงถึงสิ่งที่ต้องทำวันนี้ โดยการดึงข้อมูลจากบันทึกบนปฏิทินของเรา และมี Missed ซึ่งจะเป็นตัวรวม การแจ้งเตือนทั้งหมดที่เรายังไม่ได้เปิดดู เช่น ข้อความ, สายที่ไม่ได้รับ เป็นต้น Notification Center ถือว่าปรับปรุงได้ดีขึ้นมากและมีประโยชน์มากกว่าเดิม
[dropcap type=”circle” color=”#ffffff” background=”#ff0062″]12.[/dropcap]
Block Numbers
มาถึงฟีเจอร์นี้ Block Numbers ที่หลายคนรอคอย เคยมั้ยที่อยากบล็อคเบอร์โทรศัพท์ใครสักคนหนึ่ง อาจจะด้วยการล็อคเบอร์โทร หรือส่งข้อความ (SMS) วันนี้ Apple จัดให้ สำหรับ Block Numbers เป็นฟีเจอร์ที่ใช้ในการบล็อคเบอร์โทรศัพท์,ข้อความ หวังว่าคงถูกใจหลายๆคนนะคะ
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาของ iOS 7
1.iOS in the Car สามารถเชื่อมการทำงานของ iOS เข้ากับรถยนต์ เช่น โทรศัพท์ ข้อความ และแผนที่
2. สามารถใช้งาน Maps แบบ Night Mode หรือแผนที่โหมดกลางคืน
3. วิดีโอรองรับ 60 เฟรมต่อวินาที
4. เลิกใช้ระบบแท็กหน้าบุคคลและสถานที่ใน Photos
5. รองรับพจนานุกรม ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ
6. รองรับเกมคอนโทรลเลอร์หรือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ควบคุมเกมจากนักพัฒนาภายนอก
7. รองรับ Wi-Fi HotSpot 2.0
8. รองรับ Inclinometer เครื่องวัดการเอียงตัว หรือวัดองศาการทำมุม
9. บล็อกเบอร์โทรศัพท์ สายเข้า, ข้อความ, FaceTime จากเบอร์และคนที่เราไม่ต้องการคุยด้วย
10. ซิงก์ Notification ข้ามอุปกรณ์ได้ (Notification Sync)
11. Spotlight สำหรับค้นหาสิ่งที่ต้องการในเครื่องจะอยู่หน้า Home screen
12. PDF annotations
13. Maps รองรับ Turn-by-turn แบบการเดิน
14. Flickr & Vimeo Integration
15. FaceTime เฉพาะเสียงเท่านั้น