PhD คืออะไร ?
PhD ย่อมาจาก Doctor of Philosophy หมายถึง ปริญญาดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) อันที่จริงแล้วคำว่า Doctor มีรากศัพท์มาจากคำว่า Doctrine แปลว่า ความรู้ ส่วน Philosophy รากศัพท์มีความหมายว่า รักในการแสวงหาความรู้ พอรวมกัน PhD จึงความหมายว่า “การรักในการค้นหาความรู้” กล่าวอย่างเป็นทางการ Ph.D คือ ปริญญาทางวิชาการสูงสุดที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยในหลายประเทศเป็นปริญญาระดับสูงสุดจะต้องผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์ในการทำวิจัยในหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญซึ่งจะต้องรู้ลึกรู้จริงมากกว่าการเรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทนั่นเองบุคคลที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตอาจใช้คำนำหน้าว่าดอกเตอร์ (Doctor) หรือนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “ดร.” (“Dr” ) ในทางกฎหมายได้
ปกติแล้วคนเรียนในระดับ PhD จะใช้เวลาเรียน 3ปีแบบเต็มเวลา และ 6ปีแบบนอกเวลาเพื่อศึกษาค้นคว้าให้เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับงานวิจัยในสาขานั้นๆ ซึ่งในการศึกษาจะต้องมีความสามารถในการค้นหาความจริงและความสามารถในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ที่สูงและมีศักยภาพ
Ph.D กับ M.Phil แตกต่างกันอย่างไร
ถึงแม้ว่า Ph.D กับ M.Phil จะมุ่งเน้นการศึกษาในการทำวิจัยเช่นเดียวกันแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร เพราะ Ph.D (Doctor of Philosophy) จะเน้นงานวิจัยที่ลึกซึ้งมากว่าและเป็นหลักสูตรการวิจัยระดับปริญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่วน M.Phil เป็นหลักสูตรการวิจัยเชิงวิชาการที่ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ในวิชาเฉพาะได้และให้ความรู้ที่เหมาะสมสำหรับการวิจัยเพิ่มเติม สรุปคือ M.Phil จะมีวิทยฐานะที่ต่ำกว่า Ph.D ผู้เรียนจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาขาวิชานั้นๆแต่จะไม่ได้เป็นดอกเตอร์นั่นเอง
การเรียนในระดับ PhD ทำให้เป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นอย่างลึกซึ้งซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปทำในตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการสอนหรือการวิจัยซะส่วนใหญ่เพราะมันเป็นสิ่งแสดงถึงการมีความรู้ความสามารถและนำความรู้นั้นเผยแพร่ไปยังผู้อื่นได้ นอกจากนั้นการที่มีความเชี่ยวชาญและมีความกระตือรือร้นในการทำงานวิจัยก็เป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งในการทำธุรกิจการค้าหรือข้อต่อรองตำแหน่งงานและเงินเดือนที่สูงได้เช่นเดียวกัน
