ในปัจจุบันนี้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขนาดมากกว่า 5 นิ้ว กำลังเป็นที่นิยมมาแรงแซงทางโค้ง ทางค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ซึ่งถือได้ว่าเป็นเทพทางด้าน window Phone อยู่แล้วก็ไม่รีรอส่งเจ้า Nokia Lumia 1520 ลงมาสู้ศึกในสนามครั้งนี้โดย Nokia Lumia 1520 นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นหน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วเลยทีเดียวจ้า คมชัดระดับ Full HD 1080p ให้สีสันที่สมจริงและแสดงผลสีดำด้วยเทคโนโลยี ClearBlack Display และยังเสริมความทนทานด้วยกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 2 ในส่วนของวัสดุและการออกแบบก็ยังคงเอกลักษณ์ของตระกูล Lumia ด้วยตัวเครื่องโพลีคาร์บอเนตแบบ Uni-body ไร้รอยต่ออย่างเช่นเคย

รีวิว Nokia Lumia 1520

[dropcap type=”circle” color=”#F7F5FD” background=”#4C8040″]1[/dropcap]ประสิทธิภายในของ Nokia Lumia 1520
ระบบภายในยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพตามเกณฑ์ของสมาร์ทโฟนระดับท็อป อันดับแรกเลยก็คือ cpu ตัวแรงอย่าง Snapdragon 800 แบบ Quad-core ความเร็ว 2.2 GHz มาพร้อมกับ RAM 2 GB และการ์ดจอ Adreno 330 ไม่ว่าจะแอพลิเคชั่นหรือเกมส์ไหนๆ เจ้า Nokia Lumia 1520 เอาอยู่แน่นอนจ้า ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เวอร์ชั่นล่าสุด (GDR3)ซึ่งทางโนเกียเองได้พัฒนาคุณสมบัติในการใช้งานเพิ่มเติมเฉพาะผู้ใช้งานตระกูล Lumia จึงได้เรียกชื่อเฟิร์มแวร์ตัวนี้ว่า Lumia Black และได้มีการปรับปรุงหน้าจอ Start Screen ให้มีพื้นที่สำหรับจัดวาง Live Tile เพิ่มขึ้นอีก 1 แถวเพื่อรองรับสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่และในส่วนของการใช้งาน Multitasking ก็สามารถเลือกปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการใช้งานได้

[dropcap type=”circle” color=”#F7F5FD” background=”#4C8040″]2[/dropcap]ตัวกล้อง Nokia Lumia 1520
ด้านความเจ๋งของกล้อง Nokia Lumia 1520 ไม่แพ้ใครเลยทีเดียวนั่นก็คือกล้อง PureView ความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซลมาพร้อมกับแฟลช Dual LED และยังมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ 1/2.5นิ้วพร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS ส่วนตัวเลนส์ไม่ต้องพูดถึงใช้เลนส์คุณภาพสูงอย่าง Carl Zeiss ส่วนเรื่องอัตราส่วนมาตรฐานของการถ่ายจะอยู่ที่ 16:9ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยการบันทึกภาพนั้นจะใชัระบบ Dual Captureนั่นก็คือในการถ่ายภาพ 1 ครั้งจะบันทึกภาพเป็น 2 ไฟล์ แบ่งเป็นไฟล์ภาพความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สำหรับการแบ่งปันไปยังโซเซียลเน็ตเวิร์คต่างๆและไฟล์ต้นฉบับจะมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ไว้เพื่อสำหรับตกแต่งเพิ่มเติมในโหมด Reframing โดยยังคงความคมชัดของภาพถ่ายไว้เหมือนเดิมและยังเพิ่มความสามารถในการถ่ายไฟล์ RAW(.DNG)สำหรับนำไปตกแต่งด้วยโปรแกรมถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้อีกด้วย และที่เจ๋งไปกว่านั้นยังมีแอพพลิเคชั่น Nokia refocus ที่เพิ่มเข้ามาในตัว Lumia Black นั่นก็คือให้เราถ่ายภาพไปก่อนแล้วสามารถมาเลือกจุดโฟกัสภายหลังได้ เจ๋งสุดๆ ในเรื่องของการถ่ายภาพวิดิโอ สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด full HD 1080p  และสามารถบันทึกเสียงระบบสเตอริโอให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจน ไม่แตกพร่า แม้อยู่ในที่ที่เสียงดังอย่าง คอนเสิร์ต หรือในผับ ก็ไม่หวั่นเพราะมีฟังก์ชั่น Nokia Rich Recording มีความสามารถในการบันทึกเสียงผ่านไมโครโฟนถึง 4 ตัวด้วยกัน เลยทีเดียวนะคะ

[dropcap type=”circle” color=”#F7F5FD” background=”#4C8040″]3[/dropcap]ด้านความบันเทิงของ Nokia Lumia 1520
มาทางด้าน music +videos Hub กันก่อนนะคะสำหรับการฟังเพลง และรับชมวิดิโอสามารถเข้าใช้งานได้จากเมนู music+videos เหมือนเดิมค่ะโดยเจ้าตัว Nokia Lumia 1520 ยังคงมาพร้อมระบบเสียง Dolby Headphonec และสามารถปรับอิควอไลเซอร์ได้ถึง 17 รูปแบบซึ่งจะแสดงผลเมื่อใช้งานร่วมกับหูฟังใน  ส่วนของเล่นวิดิโอนั้นสามารถรองรับการเล่นไฟล์ระดับ Full HD ได้อย่างลื่นไหล และที่ขาดไม่ได้เลยกับฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างวิทยุ FM พร้อมกับแอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Nokia MixRadio ที่ให้บริการฟังเพลงแบบออนไลน์ด้วยการมิกซ์แนวเพลง และศิลปินที่เราชื่นชอบมารวมไว้หรือจะเลือกฟังจากชาร์ตฮิตทั้งของไทยและต่างประเทศก็ได้นะคะ และก็ยังสามารถดาวน์โหลดเพลงเพราะๆมาเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ในภายหลังโดยไม่ต้องต่อเน็ตก็ได้ แต่มีข้อจำกัดคือสามารถกดข้ามเพลงที่ไม่ชอบได้สูงสุด 6 ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าหากเราอยากโหลดเพลงมาฟังแบบ ออฟไลน์และสามารถกดข้ามเพลงได้แบบไม่จำกัดก็สามารถทำได้แต่อาจมีค่าบริการเดือนละ 30 บ.ค่ะ

[dropcap type=”circle” color=”#F7F5FD” background=”#4C8040″]4[/dropcap]การเชื่อมต่อ Nokia Lumia 1520
มาทางด้านการเชื่อมต่อของเจ้า Nokia Lumia 1520 กันบ้างนะคะความสามารถ รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G ได้ครบครันทุกคลื่นความถี่เลยทีเดียวและยังรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE ด้วยอัตราการดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และใช้งานเป็น wi-Fi hotspot พร้อมกับ NFC สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ  และยังสามารถใช้งานร่วมกับแท่นชาร์ตไร้สายได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องพึ่งเคสเสริม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัวระบุพิกัด GPS สามารถระบุตำแหน่งและค้นหาสถานที่บน Here maps ร่วมกับ Here city lens และ Here Drive+ ได้อีกความสามารถครบครันจริงๆ

[dropcap type=”circle” color=”#F7F5FD” background=”#4C8040″]5[/dropcap] Nokia Lumia 1520 น่าซื้อมั๊ย?

หากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มุ่ง เน้นการใช้งานทางด้านมัลติมิเดียไม่ว่าจะเป็น เล่นเกมส์ ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ต่างๆ เจ้า Nokia Lumia 1520 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งนอกจากจะมีความแรง ของหน่วยประมวลผลแล้วหากใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพก็ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับกับเฟิร์มแวร์ Lumai Black  ที่มีความสามารถทำให้ไวท์บาลานซ์ในโหมด Auto ทำงานได้แม่นยำมากขึ้น และก็ยังมี แอพพลิเคชั่นอย่าง Nokia Refocus มาใ้ห้เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ถือได้ว่าเจ้าตัว Nokia Lumia 1520 เป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่น่าเป็นเจ้าของอยู่ไม่น้อยนะคะ

ราคา Nokia Lumai 1520

ราคาเปิดตัวอยู่ที่  22,900 บาท จนถึงวันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2557) ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย และเท่าที่แอดมินสอบถามไปทางค่ายมือถือเกี่ยวกับโปรโมชั่นของเจ้า Nokia Lumia 1520 ก็เห็นจะมีแต่ค่ายดีแทคนะคะ ที่ตอนนี้จัดโปรโมชั่นอยู่ แต่โปรโมชั่นก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่แถมราคาเครื่องก็ไม่ลดลงอีกด้วย แต่อาจจะดีตรงที่มีแพ็คเกจค่าโทรและอินเตอร์เน็ตที่น่าสนใจเท่านั้นเอง