10 ฟีเจอร์ที่มีใน Note 4 แต่ไม่มีใน iPhone 6 Plus

0
2511

ถือเป็นคู่รักคู่แค้น คู่ใหม่ของวงการสมาร์ทโฟนกันเลยทีเดียวสำหรับ iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy Note 4 ที่เปิดตัวก็ใกล้ๆกัน หน้าจอก็ใหญ่พอๆกัน เชื่อว่าหลายคนคงตัดสินใจเลือกยาก วันนี้แอดมินขอนำเสนอ 10 เหตุผล ที่ต้องเลือก Note 4 มากกว่า iPhone 6 Plus แต่ก็ไม่ได้เป็นการชี้นำให้เลือก Note 4 หรือ iPhone 6 Plus นะคะ อาจจะดูไว้เป็นไกด์ในการเลือก ว่าเหมาะกับการใช้งานของเราหรือไม่ ส่วนเหตุผลที่ควรเลือก iPhone 6 Plus มากกว่า Note 4 ก็จะตามมาเร็วๆนี้แน่นอนจ้า
note4vsiphone6plus

หน้าจอระดับ Quad HD

แอปเปิ้ลส่ง iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดธรรมดา เพียงระดับ 1080 พิกเซล ในขณะที่ Note 4 จัดมาเต็ม ทั้งขนาด 5.7 นิ้ว กับความละเอียดระดับ 1440 p ที่งานนี้จัดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Quad HD Super AMOLED ที่ความหนาแน่นสูงมากถึง 500 ppi อาจเห็นว่าใช้จอขนาดนี้จะทำให้เปลืองแบตเตอรี่รึเปล่า ซัมซุงเขาคอนเฟิร์มมาว่า การแสดงผลแบบ Quad HD นั้น ไม่กระเทือนแบตเตอรี่อย่างแน่นอน และที่สำคัญใน Note 4 ยังให้สีที่ถูกต้องอีกด้วย

Quad-HD-display-resolution

หน้าจอมีขนาดที่พอดีกับตัวเครื่อง

ถึงแม้ทั้ง iPhone 6 Plus และ Note 4 จะมีขนาดที่ต่างกันเพียง 0.2 นิ้ว (ในแนวทะแยง) แต่จะสังเกตได้ว่า Note 4 จะมีขนาดสั้นกว่า iPhone 6 Plus ทำให้แลดูมีความเหมาะสม ในขณะที่ iPhone 6 Plus มีลักษณะที่ดูยาวๆ ไม่สมส่วนสักเท่าไหร่

Good-screen-to-phone-size-ratio

Note 4 มี S Pen

เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนตระกูล Note เชื่อว่าหลายคนไม่ลืมเรื่อง S Pen ปากกาที่จะมาช่วยขีดเขียน แต่ไม่ใช่ว่าใช้แค่ขีดๆเขียนๆได้อย่างเดียวนะคะ ฟังก์ชั่นการใช้งานของ S Pen ก็ถือว่าแจ่มใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัด การวาด การออกแบบ เชื่อว่าส่วนหนึ่งที่เลือกใช้ Note 4 ก็เพราะเจ้า S Pen นี่แหล่ะ

Extra-S-Pen-stylus-input

การบันทึกวีดีโอความคมชัดระดับ 4K

เป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการเปรียบเทียบกันอย่างแน่นอนในส่วนของกล้อง ที่มาคราวนี้ถือว่าไม่ยอมกันเลยทีเดียว แต่ที่พิเศษสุดๆคือ Note 4 สามารถถ่ายวีดีโอความคมชัดสูงสุดที่ระดับ 4K ได้ ในขณะที่ iPhone 6 Plus นั้นทำได้เพียง ความคมชัดสูงสุดระดับ 1080p เอง ส่วนนี้ต่างกันมากเลยนะคะ

4K-video-recording

ลำโพงแบบสเตอริโอพร้อมไมโครโฟน 3 ทิศทาง

ซัมซุงในปีนี้ได้มีการคิดค้นลำโพงใหม่ ที่มาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัวเพื่อตัดเสียงสิ่งรบกวน ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้ดียิ่งขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสเตอริโอ 250 kbps เรียกได้ว่าน่าจะเป็นสเตอริโอที่ดีที่สุดในเวลานี้ เรียกได้ว่างานนี้ iPhone 6 Plus นั้น ธรรมดาไปเลยล่ะ

Stereo-audio-capture-with-three-directional-mics

มาพร้อมแบตเตอรี่ที่อึด และชาร์จเร็ว

Note 4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh ในขณะที่ iPhone 6 Plus นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2915 mAh ซึ่งมีการทดสอบความอึดของทั้งคู่ เมื่อมีการใช้งานอย่างหนักหน่วงเหมือนกัน พบว่า Note 4 อยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมง 43 นาที ส่วน iPhone 6 Plus นั้น อยู่ได้เพียง 6 ชั่วโมง 32 นาที แถมใน Note 4 ก็ยังมีโหมดประหยัดพลังงานอีกด้วยนะเออ

Longer-battery-life-with-faster-charging-and-swappable-juicer

มีอินเตอร์เฟสให้เลือกใช้หลายแบบ

จากหน้า Homescreen จะเห็นได้ว่า Note 4 มีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานที่สะดวกกว่า เช่น เมนูการตั้งค่า หรือสามารถเปิดการใช้งานได้หลายแอพพลิเคชั่น (multitask) ซึ่งหากเทียบกันกับ iPhone 6 Plus แล้วจะเห็นได้ว่า iPhone 6 Plus นั้นทำได้อย่างมากก็เพียง Pop-up เท่านั้นเอง

Richer-interface-options

Wide-angle (กล้องมุมกว้าง) ในกล้องหน้า

ณ เวลานี้หากไม่กล่าวถึงฟีเจอร์ที่ซัมซุงจัดมาเอาใจเหล่าสาวกเซลฟี่อย่าง Wide-angle แล้วก็คงดูขัดหูขัดตาสาวกซัมซุงเป็นแน่ และแน่นอนว่าเจ้า Wide-angle นี้ทำให้ Note 4 ได้เปรียบ iPhone 6 Plus อยู่มากโข เซลฟี่สวยๆด้วยกล้องหน้าความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล เทียบกับ 1.2 ของ iPhone 6 Plus ก็ถือว่ากินขาด แต่ Note 4 ยังมาพร้อมรูรับแสงขนาด f/1.9 และ Wide-angle ขนาดมุมกว้างถึง 120 องศา เรียกได้ว่าถ่ายเซลฟี่ได้แบบไม่ต้องกลัวตกขอบจ้า

Wide-angle-front-camera

โหมด IR Blaster

IR Blaster เป็นตัวช่วยให้ Note 4 ของคุณสามารถควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณในขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น ทีวี สเตอริโอ หรือเครื่องปรับอากาศ ใน iPhone 6 Plus ไม่มีโหมดนี้นะจ๊ะ

IR-Blaster

เซ็นเซอร์รังสียูวี

เป้นฟีเจอร์ที่เอาใจสาวๆที่กลัวแดด เช่นในสถานะการที่คุณอยู่บนชายหาดแล้วไม่แน่ใจว่าแดดแรงแค่ไหน Note 4 ช่วยคุณได้ค่ะ โดยใน Note 4 มีเครื่องวัดรังสียูวีในตัว ที่จะช่วยให้คุณทราบได้ว่าแดดแรงเกินไปสำหรับผิวสวยๆของคุณหรือไม่ และนอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจสอบอัตตราการเต้นของหัวใจอีกด้วยนะจ๊ะ

UV-sensor

ที่มา : phonearena.com