รีวิว LG G Flex ราคา แอลจี จี เฟล็กซ์ สมาร์ทโฟนจอโค้งมาแล้วจ้า
หลังจากที่ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งแดนกิมจิอย่างซัมซุงได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอโค้งที่ชื่อ “Galaxy Round” ไปได้ไม่กี่วัน มีหรือที่ค่ายอื่นจะนิ่งเฉย ล่าสุด LG ก็ได้ส่งเจ้า LG G Flex ลงมาช่วงชิงตลาดสมาร์ทโฟนจอโค้ง ถึงแม้จะมาทีหลังแต่ก็ไม่ได้ดังน้อยกว่า Galaxy Round เลยแม้แต่น้อย ก็ถือว่าเจ้า LG G Flex ก็โด่งดังใช่ย่อย โดยการมาครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้ว และที่สำคัญกว่านั้นคือ ตัวเครื่องสามารถดัดได้จนเรียบแบน ทั้งจอ ทั้ง Body หรือแม้กระทั่งแบตเตอรี่ก็เป็นแบบโค้งงอได้จริงๆ ยังไม่หมด LG ยังเสริมทัพให้กับ G Flex โดยบอกว่า ฝาหลังซ่อมแซมตัวเองได้ แนะ!!! จะเป็นยังไงไปดูกันเถอะ
จอโค้งจริงๆนะ ซ่อมแซมตัวเองได้ด้วย
อาจจะด้วยข้อความที่ LG เองประกาศออกมาที่บอกไว้ว่า “The World’s First Real Curved Smartphone” ที่ทำให้ LG G Flex คือ จอโค้งของจริง ก็ถือได้ว่าข่มคุ่ต่อสู้อย่าง “Galaxy Round” ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และก็เป็นที่แน่นอนว่าการดีไซน์ของ LG G Flex ก็สวยงามและโดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆเป็นไหนๆ ซึ่ง LG ก็ยังคงเน้นการออกแบบสไตล์ยูนิบอดี้ หล่อขึ้นรูปแบบชิ้นเดียวตลอดเครื่องเพื่อความแข็งแกร่ง ปุ่มหลักอย่างเช่นปุ่มปรับเสียงก็ติดตั้งอยู่ด้านหลังของเครื่อง [Rear Key] เช่นเดียวกับรุ่น LG G2 ที่กำลังขายดิบขายดีอยู่ในบ้านเราตอนนี้ แต่สิ่งที่ LG G Flex เหนือกว่าคู่ต่อสู้น่าจะเป็นมันสามารถรองรับแรงกดจากด้านบน จนเครื่องที่โค้งกลายเป็นเส้นตรง ราบไปกับพื้นได้เลย ถือเป็นการยืนยันอีกด้วยว่า “จอโค้งรุ่นนี้แกร่งกว่าที่คิด” และฝาหลังของ LG G Flex ก็ยังใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เคลือบผิวฟิล์มเอาไว้อีกชั้น โดยพื้นผิวชนิดนี้มีคุณสมบัติซ่อมแซมตัวเองได้ ภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังเกิดรอยขีดข่วน ทำให้สื่อเกาหลียกเจ้า LG G Flex ไปเทียบกับ “วูลฟ์เวอรีน” แห่ง “X-Men” เลยทีเดียว ยิ่งสองจุดเด่นรวมตัวกัน ก็ยิ่งทำให้เจ้า LG G Flex เป็นที่จับตามองจากทั่วโลกในฐานะ “นวัตกรรมใหม่” เพราะถ้า LG G Flex มีเสียงตอบรับที่ดี ก็แปลว่าในอนาคตอันใกล้นี้ สมาร์ทโฟนในยุคต่อไปอาจจะกลายเป็นจอโค้ง ซ่อมแซมตัวเองได้กันหมดเลยก็เป็นได้
หน้าจอคมชัดด้วยจอ HD 6 นิ้ว ดัดโค้งและสัมผัสสั่งงาน
อาจจะเป็นผลมาจากการออกตัวหน้าจอโค้งของ Galaxy Round ที่มาพร้อมกับข้อกังขาจากหลายๆคนว่า จะโค้งไปทำไม จึงทำให้เจ้า LG G Flex ถูกถามหนักกว่านั้น เพราะทาง Galaxy Round เองก็มีคำตอบสำหรับทุกคนแล้วว่าโค้งเพื่อรองรับกับใบหน้าและอุ้งมือ ในขณะที่ LG G Flex ออกแบบให้โค้งตามแนวยาว จึงน่าจะไม่มีประโยชน์กันเข้าไปใหญ่ จนถึงตอนนี้ทาง LG เองก็ยังไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ สิ่งที่รู้ก็เพียงแค่ LG G Flex มาพร้อมกับเซ็นเซอร์จับการโยก [Tilt] เช่นเดียวกับ Galaxy Round ดังนั้นจึงสามารถโยกเครื่องเบาๆเพื่อให้วอลเปเปอร์เปลี่ยนเองโดยอัตโนมัติ หรือแสดงหน้าจอเตือน [Notification] ได้ และ LG เองก็ยืนยันว่าเจ้า LG G Flex ออกแบบให้โค้งเพื่ออรรถรสในการใช้งานมัลติมีเดียที่เหนือกว่า ซึ่งคาดว่าน่าจะหมายถึงการใช้งานดูหนังในแนวนอนนั่นเอง ส่วนสเปคจอเองก็น่าสนใจเพราะ LG เลือกใช้จอใหญ่ถึง 6.0 นิ้ว แต่ความละเอียดกลับลงไปเป็นแบบ HD [1280 x 720 พิกเซล] แทนที่จะเป็นแบบ Full HD [1920 x 1080 พิกเซล] อาจเพราะเทคโนโลยีจอโค้งยังไม่พร้อมสำหรับความละเอียดสูง หรือเพราะจอโค้งของ LG G Flex เป็นแบบใหม่ที่ใช้ความละเอียด HD ก็เพียงพอแล้ว อาจจะต้องรอพิสูจน์กันอีกครั้ง
ภายในตัวเครื่องของเจ้า LG G Flex
“ขุมพลังมังกรสี่หัว ความเร็ว 2.26 GHz” เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งโลกสมาร์ทโฟนทั้งที่ทาง LG เองก็จัดสเปกภายในให้ในระดับสุดยอดแน่นอน ด้วยซีพียูพลังมังกร “Snapdragon 800” ของ Qualcomm ที่ความเร็ว 2.26 GHz แบบ Quad-core ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในขณะนี้ว่าเป็น CPU อันดับ 1 เลยทีเดียว นอกจากนี้เจ้า LG G Flex ยังมาพร้อมกับส่วนประมวลผลกราฟฟิค Adreno 330 แถมยังมาพร้อมกับ Ram 2 GB หน่วยความจำภายในจัดมาให้ถึง 32 GB มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.2 พร้อมสำหรับการอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น 5 ในอนาคตต่อไป เมนูภายในก็ได้รับการยกเครื่องใหม่ให้เหมาะสมกับจอภาพโค้ง โดยที่ LG ก็ไม่ลืมเรื่องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น LG จึงจัดแบตเตอรี่ความจุสูงสุดถึง 3500 mAh มาให้ด้วย หลายคนเป็นห่วงว่าเจ้า LG G Flex สามารถโค้งได้ แล้วแบตเตอรี่จะโค้งด้วยมั้ย คำตอบก็คือ โค้งด้วยค่ะงานนี้ และที่กล่าวมาทั้งหมด ถูกดีไซน์ให้อยู่ในระดับพกพา ดังนั้นความหนาของเครื่องจึงอยู่ที่ 7.9 – 8.7 มม. เท่านั้นเอง น้ำหนักก็เบาเพียง 177 กรัม แต่ที่น่าเสียดายก็น่าจะเป็นไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ และไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ แค่นั้นเอง
การเชื่อมต่อสุดแจ่มกับ 4.5G LTEA ซะด้วย
แน่นอนว่าเครื่องสเปคแรงๆก็ต้องคู่กับการเชื่อมต่อแรงๆแบบ 4G แต่ไม่ใช่ 4G ธรรมดานะ เป็น 4G LTEA (LTE – Advance) ถือเป็นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุด ที่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปจาก 4G LTE อีกที โดยเครือข่าย 4.5G นี้เริ่มมีให้เห็นในเกาหลีและญี่ปุ่นก่อนชาติใดในโลกด้วยความเร็ว 100 – 150 MBPS ซึ่งความเร็วขั้นสุดนี้ ทำให้การใช้งานมัลติมีเดียออนไลน์เป็นไปได้อย่างสะใจไร้ขีดจำกัด และ LG G Flex ก็น่าจะตอบสนองได้ดีที่สุดด้วยจอภาพ 6 นิ้วแบบโค้งนั่นเอง นอกจากนี้ LG G Flex ยังรองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานแอนดรอยด์อื่นๆครบครัน ไม่ว่าจะเป็น NFC, บลูทูธ, microUSB, Wi-Fi และ WiFi Direct โดย 3G และ 4G ก็ยังมีอยู่ สำหรับใครที่อยากจะสอยกลับมาใช้ที่เมืองไทยสักเครื่องอย่าลืมดูเรื่องสัญญาณความถี่ด้วยนะ
กล้องสุดแจ่มของ LG G Flex
ในส่วนของกล้องและมัลติมีเดีย ออกแบบมาเน้นใช้งานด้านความบันเทิงเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้น LG G Flex จึงมีทุกสิ่งที่ LG มี ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงดอลบี้โมบายล์ เพิ่มรสชาติในการดูหนังฟังเพลงพร้อมวิทยุ FM ในตัว อาจจะด้วยที่ต้องขายในเกาหลีก่อนจึงทำให้เจ้า LG G Flex มีเสาอากาศดูทีวีซ่อนเอาไว้ภายในตัวเครื่องด้วย แต่ถ้า LG G Flex เริ่มออกมาตลุยทั่วโลก เสาอากาศสำหรับดูทีวีที่ว่านี้ อาจจะหายไปก็ได้ ในส่วนของการใช้งานด้านมัลติมีเดียของจอ 6 นิ้วนี้อาจจะต้องดูอีกทีว่าจะเหมาะสมกันอย่างที่ LG คุยไว้หรือไม่ และที่น่าเป็นห่วงก็คือการดีไซน์ที่โค้งตามแนวยาวจะทำให้การใช้งานเกมลำบากหรือเปล่า? ในส่วนของการถ่ายภาพก็เทียบเท่ากับรุ่นท็อปสุดอย่าง LG G2 ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้าอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล พร้อมลูกเล่นเยอะแยะมากมายสไตล์เกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ISO, โหมดบิวตี้, พาโนรามา, โฟกัสใบหน้าและรอยยิ้ม ด้านการอัดวีดีโอ ก็สามารถทำได้ที่ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
มือถือ lg g flex ราคา และ สเปค (Spec) ราคาต่ำสุด คือ 24,493 บาท ขายออนไลน์ที่ Lazada ส่วนราคา ศูนย์ AIS Dtac และ True ของ lg g flex อยู่ที่ราคา ไม่มี บาท ส่วนราคาเจ้าอื่นๆ และ สเปคของ lg g flex ดูด้านล่างเลย:
ตุลาคม 2556
กุมภาพันธ์ 2557
ราคา lg g flex
ราคาศูนย์
จุดเด่น
จอแสดงผลความละเอียดสูง (720 x 1280 พิกเซล)
กล้องความละเอียดสูง
หน่วยประมวลผล Quad core
Ram 2048 MB
รองรับ 4G และเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้น
จุดด่อย
การออกแบบ (Design)
- ชนิดอุปกรณ์:
- Smart phone
- OS:
- Android (4.4.2, 4.2.2) Optimus 3.0 UI
- ขนาด:
- 160.5 x 81.6 x 7.9 mm
- น้ำหนัก:
- 177 g
- Material
- Plastic
หน้าจอ (Display)
- ขนาดหน้าจอ:
- 6.0 inches
- ความละเอียด:
- 720 x 1280 pixels
- PPI:
- 245 ppi
- ชนิดหน้าจอ
- P-OLED
- Touchscreen:
- Multi Tuch
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
- หน่วยประมวลผล:
- Quad core, 2260 MHz, Krait 400
- System chip:
- Qualcomm Snapdragon 800 MSM8974
- หน่วยประมวลผลภาพ:
- Adreno 330
- แรม:
- 2048 MB RAM
- ความจุตัวเครื่อง:
- 32 GB
- Storage expansion:
- –
กล้อง (Camera)
- กล้องหลัง:
- 13 megapixels
- กล้องหน้า:
- 2.1 megapixels
- Flash:
- LED
- รูรับแสง:
- –
- ความละเอียดวิดีโอ:
- 1920×1080 (1080p HD) (60 fps)
เครือข่าย (Carrier)
- 2G:
- 850/900/1800/1900
- 3G:
- AIS(2100/900), DTAC(2100/850), TRUEMOVE(2100,850), TOT(2100)AIS(2100/900), DTAC(2100/850), TRUEMOVE(2100,850), TOT(2100)
- 4G:
- รองรับ
- SIM:
- –
- Data :
- HSDPA+ (4G) 42.2 Mbit/s, UMTS, EDGE, GPRS
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
- Bluetooth:
- 4.0
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi:
- 802.11 a, b, g, n, n 5GHz
- Mobile hotspot:
- ไม่ระบุ
- USB:
- USB 3.0
แบตเตอร์รี่ (Battery)
- ชนิด:
- Li-Polymer
- USB:
- 3500 mAh
คุณสมบัติอื่นๆ
- Sensors:
- Accelerometer, Gyroscope, Compass, Gesture